ผู้สื่อข่าวรายงาน เมื่อวันที่ 30 มิ.ย.66 นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กล่าวถึง การทำงานของสภาหลังพรรคเพื่อไทยยอมถอยให้พรรคก้าวไกลได้ตำแหน่งประธานสภาว่า จากที่ติดตามในข่าว ซึ่งมีการเสนอนายปดิพัทธ์ สันติภาดา ส.ส. พิษณุโลก พรรคก้าวไกล อาจเป็นตัวตึงไปนิดนึง เพราะคนที่เป็นตัวตึงหรือสู้ให้พรรคมากๆ มาดำรงตำแหน่งประธานสภา จำเป็นต้องลดบทบาทลง
เพราะทำหน้าที่ประธานในที่ประชุมต้องมีความเป็นกลาง ต้องประสานงานกับทุกพรรค เมื่อสมาชิกมีข้อตกลงที่ไม่ลงตัว จะต้องประสานงาน ดังนั้นประธานสภาจะต้องมีบารมี มีวุฒิภาวะ ในการพูดคุยกับทุกพรรคได้ จึงขอฝากให้คิดในเรื่องนี้ด้วย
"บิ๊กโจ๊ก" เผยเบาะแส 5 ชีวิตหายปริศนา ยืนยันคดีไม่ใช่การอุ้ม-ค้ามนุษย์
มาแล้วคำพูดจาก เว็บสล็อตลิขสิ! เลขเด็ด “พิธา” โชว์ลอตเตอรี่ ก่อนลงพื้นที่พิษณุโลก
ทั้งนี้ นายชัยวุฒิ มองว่าการจะเกิดปัญหาใด ในการประสานงานหรือไม่นั้น ไม่สามารถบอกได้ เพราะยังไม่เกิดจึงยังไม่รู้ แต่เท่าที่ดูแนวทางที่เกิดขึ้นในอดีต หากตึงเกินไปก็จะทำงานกันยาก จึงอยากได้คนที่ทำให้สภาเดินหน้าได้จะดีกว่า เพราะอย่างที่ทราบดีว่า ขณะนี้มีความขัดแย้งทางความคิดทางด้านการเมืองกันมาก โดยเฉพาะในเรื่องกฎหมายที่น่าจะเกิดการทะเลาะกันแน่นอน ส่วนความอาวุโสของประธานสภาจะมีส่วนด้วยหรือไม่นั้น นายชัยวุฒิ ระบุว่า ก็มีส่วนด้วยกันทุกเรื่อง ทั้งประสบการณ์ แนวทางการทำงานที่จะต้องพูดคุยกันได้เป็นเรื่องสำคัญ รวมถึงความเป็นกลางที่สำคัญไม่แพ้กัน ส่วนพรรคร่วมรัฐบาลจะเสนอชื่อประธานสภาแข่งกับพระก้าวไกลหรือไม่นั้น นายชัยวุฒิกล่าวว่า เขาตกลงกันได้แล้วใช่ไหม ตนตามข่าวไม่ทัน
ส่วนกรณีการเสนอชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ของพรรคร่วมรัฐบาลเสียงข้างน้อย ที่มีกระแสว่าจะเสนอชื่อพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ แข่งนั้น นายชัยวุฒิ ยืนยันว่าขณะนี้ยังไม่มีสัญญาณจากพลเอกประวิตร ยังนิ่งอยู่ คงต้องรอดูสถานการณ์ทางการเมืองต่อไป ท่าทีพรรคร่วมรัฐบาลและMOU จะไปถึงการเลือกนายกรัฐมนตรีได้หรือไม่
เมื่อถามถึงกระแสข่าวล่าสุด การจัดตั้ง รัฐบาลจะไม่ใช้เสียง ส.ว. มาสนับสนุนในการโหวตนายกฯ แต่จะหาเสียงจากพรรคการเมืองอื่นมาเติมแทน นั้น นายชัยวุฒิ กล่าวว่า จะมาเติมให้เพื่ออะไร เพราะขณะนี้ยังไม่ได้มีการเจรจากัน ย้ำว่าพลเอกประวิตร ยังไม่ได้ส่งสัญญาณใดๆมา ยังนิ่งมาก ยังไม่ได้เก็บของ ต้องรอดูสถานการณ์กันก่อน ทั้งนี้ขอขอบคุณทุกฝ่ายที่ได้วิเคราะห์ ว่าพลเอกประวิตรจะได้เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งตนเองก็ได้ให้การสนับสนุนอยู่แล้ว เชื่อว่าพลเอกประวิตร มีคุณสมบัติและความพร้อม แต่ขึ้นอยู่กับการลงมติทางการเมือง และสถานการณ์ในช่วงนั้น ขอให้รอดูกันต่อไป