พรีวิว : แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส – แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
1 กุมภาพันธ์ 2549 5,701
สนาม อีวูด พาร์ค, อังกฤษ
รายการ พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ
เวลา 03.00 น. วันวันพุธที่ 1 กุมภาพันธ์ 2549
ถ่ายทอดสด ยูบีซี 40
ผู้ตัดสิน ฟิล ดาวด์
ความพร้อมของทั้งสองทีม
แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส จะขาดผู้เล่นในแนวรุกไปหลายคน รวมทั้งกองหน้า 2 คนที่มีอาการบาดเจ็บคือ เคร็ก เบลลามี่ (เอ็นหลังหัวเข่า) และพอล ดิ๊กคอฟ (กระดูกไหปลาร้าแตก)
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะไม่มีอลัน สมิธ ที่ติดโทษห้ามแข่งจากการได้รับใบเหลืองครบ 5 ใบ รวมทั้งไรอัน กิ๊กส์ (เอ็นหลังหัวเข่า) และจอห์น โอเชีย (ซี่โครงหัก) ที่มีอาการบาดเจ็บอยู่แล้ว ทำให้ริโอ เฟอร์ดินานด์ อาจจะต้องลงเล่นเป็นกองกลางอีกครั้ง ส่วนคริสเตียโน่ โรนัลโด้ (หัวเข่า) น่าจะหายจากอาการบาดเจ็บกลับมาลงสนามได้ ในขณะที่ปาทริซ เอวร่า ก็น่าจะได้ลงเล่นเป็นแบ็คซ้าย
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส แบรด ฟรีเดล, ลูคัส นีลล์, ซูราบ คิซานิชวิลี่, ไรอัน เนลเซ่น, โดมินิค มัตเตโอ, เดวิด เบนท์ลี่ย์, เคริโมกลู ตูกาย, ร็อบบี้ ซาเวจ, มอร์เท่น แกมส์ท พีเดอร์เซ่น, เชฟกี้ กูกี้, ปีเตอร์ เองเคลแมน, เบรตต์ เอเมอร์ตัน, แอรอน โมโคเอน่า, ไมเคิล เกรย์, เซอร์จิโอ ปีเตอร์, แอนดี้ ทอดด์, สตีเว่น รีด, เจมาล จอห์นสัน
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์, ทิม โฮเวิร์ด, แกรี่ เนวิลล์, ฟิลลิป บาร์ดสลี่ย์, ริโอ เฟอร์ดินานด์, เวส บราวน์, มิเกล ซิลแวสตร์, เนมานย่า วิดิช, ปาทริซ เอวร่า, คริสเตียโน่ โรนัลโด้, ปาร์ค จีซุง, ดาร์เรน เฟล็ตเชอร์, คีแรน ริชาร์ดสัน, เวย์น รูนี่ย์, รุด ฟาน นิสเตลรอย, หลุยส์ ซาฮา, จูเซ็ปเป้ รอสซี่, โอเล่ กุนน่าร์ โซลชาร์
สัมภาษณ์ก่อนเกม
มาร์ค ฮิวจ์ส ผู้จัดการทีมแบล็คเบิร์น โรเวอร์ส :
“ผมหวังว่ามันจะเป็นเกมที่คล้ายคลึงกัน เพราะผมชื่นชอบ 2 เกมนั้นมาก ทุกคนชอบการบุกและโต้กลับของเกมที่ผลัดกันรุกผลัดกันรับ พวกเขาต่อสู้กันได้ดี ถ้าเกมในวันพุธเล่นในแบบเดียวกัน มันก็จะเป็นเกมที่ดีสำหรับทุกคน”
ริโอ เฟอร์ดินานด์ นักเตะของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด :
“คุณจะต้องสามารถลงเล่นได้หมดหากมันจะเป็นประโยชน์ต่อทีม ผมจะลงเล่นในตำแหน่งใดก็ได้ให้กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หรือทีมชาติอังกฤษ เมื่อวันอาทิตย์ (เกมเอฟเอ คัพ พบกับวูล์ฟแฮมป์ตัน) เรามีปัญหาผู้เล่นบาดเจ็บหลายคน ดังนั้นผมจึงต้องลงเล่นแทนและมันน่าสนใจมาก โดยปกติผมเป็นเซ็นเตอร์ฮาล์ฟ แต่หากผู้จัดการทีมเรียกใช้ผมในตำแหน่งนั้นอีกครั้ง ผมก็จะทำ”
ข้อมูลของทั้งสองทีม
แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส มีโอกาสอย่างรวดเร็วในการแก้มือที่พ่ายแพ้ในรอบรองชนะเลิศ คาร์ลิ่ง คัพ ในการพบกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เป็นครั้งที่ 99 และครั้งที่ 4 ในฤดูกาลนี้ แบล็คเบิร์น ต้องการขยายสถิติไม่แพ้ใครในพรีเมียร์ชิพออกไปเป็น 5 นัด หลังจากตกรอบบอลถ้วยทั้ง 2 รายการภายในระยะเวลา 4 วัน โดยเสียไป 6 ประตูในช่วงเวลาดังกล่าว
ทีมของมาร์ค ฮิวจ์ส ชนะ 5 นัดจากเกมลีกในบ้าน 7 นัดหลังสุด และแพ้เพียงนัดเดียวให้กับเอฟเวอร์ตัน โดยนิวคาสเซิล เป็นอีกเพียงทีมเดียวเท่านั้นที่เคยคว้า 3 คะแนนเต็มออกจากสนามอีวูด พาร์ค ได้ในฤดูกาลนี้ แบล็คเบิร์น เป็นอันดับที่ 2 ของตาราง “ฟอร์มการเล่น 6 นัดหลังสุด” ทำได้ 13 คะแนน ตามหลังเพียงแค่เชลซี ซึ่งทำได้ 16 คะแนนจากทั้งหมด 18 คะแนน
การพ่ายแพ้ในลีก คัพ ที่สนามโอลด์ แทรฟฟอร์ด เมื่อวันที่ 25 มกราคม เป็นการพ่ายแพ้เพียงครั้งเดียวของโรเวอร์ส ในการพบกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 6 นัดในทุกรายการ พวกเขาชนะ 2-1 ในการพบกันนัดแรกเมื่อเดือนกันยายน ความผิดพลาดอย่างมหันต์ของพอล สโคลส์ ทำให้แบล็คเบิร์น ได้รับชัยชนะในสนามโอลด์ แทรฟฟอร์ด เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 1962 กัปตันทีมชั่วคราวปล่อยให้ไมเคิล เกรย์ ตัดบอลที่หน้ากรอบเขตโทษไปให้กับมอร์เท่น แกมส์ท พีเดอร์เซ่น นักเตะชาวนอร์เวย์ทำประตูที่ 2 ของเขาในเกมนั้นและเป็นประตูชัยของทีม มันเป็นเวลา 65 ปีมาแล้วนับตั้งแต่ที่แบล็คเบิร์น เคยเอาชนะปิศาจแดง ได้ทั้งในเกมเหย้าและเกมเยือนเป็นครั้งที่ 3 ในประวัติศาสตร์ของพวกเขา
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ชนะ 4 นัดหลังสุดในทุกรายการ พวกเขาเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศ คาร์ลิ่ง คัพ และทำให้เบอร์ตัน และวูล์ฟแฮมป์ตัน ตกรอบเอฟเอ คัพ ไปเพื่อเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายโดยจะไปเยือนลิเวอร์พูล ซึ่งพวกเขาเอาชนะมาได้ 1-0 จากประตูชัยในช่วงทดเวลาบาดเจ็บของริโอ เฟอร์ดินานด์ ที่สนามโอลด์ แทรฟฟอร์ด ในนัดหลังสุดของพวกเขาในพรีเมียร์ชิพ
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แพ้เพียงนัดเดียวในเกมลีก 13 นัดหลังสุด และเอาชนะได้ในเกมเยือนมากกว่าที่แบล็คเบิร์น เอาชนะได้ในบ้าน (7 ต่อ 6)
ปิศาจแดง ยังไม่เคยเก็บ 3 คะแนนเต็มออกจากสนามอีวูด พาร์ค ได้เลยนับตั้งแต่ชัยชนะ 3-1 เมื่อวันที่ 6 เมษายน 1998 ซึ่งแอนดี้ โคล, พอล สโคลส์ และเดวิด เบ็คแฮม มีชื่อเป็นผู้ทำประตู พวกเขาแพ้ 2 นัดและเสมอ 3 นัดในการเยือนครั้งต่อๆ มา
ฟอร์มการเล่นของทั้งสองทีม
แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส
อยู่อันดับที่ 8 มี 34 คะแนน (ก่อนเกมช่วงกลางสัปดาห์ทั้งหมด)
แพ้ 2 นัดหลังสุดให้กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (1-2 ในเกมเยือน คาร์ลิ่ง คัพ รอบรองชนะเลิศ นัดที่ 2) และเวสต์ แฮม (2-4 ในเกมเยือน เอฟเอ คัพ รอบที่ 4)
ในเกมลีก 4 นัดหลังสุด แบล็คเบิร์น เก็บ 3 คะแนนเต็มในการพบกับมิดเดิ้ลสโบรซ์ (เยือน), ปอร์ทสมัธ (เหย้า) และนิวคาสเซิล (เยือน) และแบ่งกันทีมละ 1 คะแนนกับโบลตันในเกมเหย้าที่เสมอกันแบบไร้สกอร์
การพ่ายแพ้ 1-2 ในเกมเยือนฟูแล่ม เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม เป็นการพ่ายแพ้เพียงนัดเดียวของแบล็คเบิร์น ในเกมลีก 7 นัด
ลงเล่นไปแล้ว 25 นัดในพรีเมียร์ชิพนับตั้งแต่เกมที่เสมอแบบมีสกอร์ (1-1 ในเกมเยือนเวสต์ บรอม เมื่อวันที่ 26 เมษายน ปีที่แล้ว)
ไม่เสียประตูมานาน 267 นาที (4 ชั่วโมง 27 นาที) ในเกมพรีเมียร์ชิพนับตั้งแต่แม็ทธิว เทย์เลอร์ ทำประตูให้กับปอร์ทสมัธ ที่สนามอีวูด พาร์ค เมื่อวันที่ 2 มกราคม
เสียประตูในช่วงทดเวลาบาดเจ็บของครึ่งแรกมากกว่าสโมสรอื่นในลีก (4 ประตู)
เป็นทีมที่มีความประพฤติย่ำแย่ที่สุดในพรีเมียร์ชิพฤดูกาลนี้ (4 ใบแดง, 45 ใบเหลือง)
กำลังต้องการทำสถิติไม่แพ้ใครในบ้านติดต่อกันเป็นนัดที่ 6
แพ้เพียงนัดเดียวในเกมลีก 7 นัดหลังสุดที่สนามอีวูด พาร์ค
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
อยู่อันดับที่ 2 มี 48 คะแนน (ก่อนเกมช่วงกลางสัปดาห์ทั้งหมด)
ชนะ 9 นัดจาก 13 นัดหลังสุดในพรีเมียร์ชิพ
การพ่ายแพ้ต่อแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในเกมเยือนนัดหลังสุดในพรีเมียร์ชิพเป็นการพ่ายแพ้เพียงครั้งเดียวใน 15 นัดหลังสุดในทุกรายการ
เกมเยือนอาร์เซน่อล ที่เสมอกันแบบไร้สกอร์ เมื่อวันที่ 3 มกราคม เป็นเพียงนัดเดียวในเกมลีก 18 นัดที่พวกเขาทำประตูไม่ได้นับตั้งแต่เกมพรีเมียร์ชิพอีกเพียงนัดเดียวที่เสมอแบบไร้สกอร์ในเกมเยือนลิเวอร์พูล เมื่อวันที่ 18 กันยายน
แบล็คเบิร์น, มิดเดิ้ลสโบรซ์ และแมนเชสเตอร์ ซิตี้ เป็นสโมสรที่เอาชนะแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้ในลีก
ไม่เสียประตู 5 นัดในเกมพรีเมียร์ชิพ 8 นัด
เป็นทีมที่ทำประตูในเกมเยือนได้มากที่สุดในลีก โดยทำได้ 21 ประตูใน 12 นัด
เกร็ดน่ารู้ของผู้เล่นทั้งสองทีม
แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส
ถ้าเชฟกี้ กูกี้ ลงเล่น จะเป็นการลงเล่นนัดที่ 200 ในลีกอังกฤษ (สต็อคพอร์ต, เชฟฟิลด์ เว้นส์เดย์, อิปสวิช และแบล็คเบิร์น)
ถ้าพอล ดิ๊กคอฟ ลงเล่นตั้งแต่ต้นเกม จะเป็นการลงเล่นเป็นตัวจริงนัดที่ 50 ให้กับแบล็คเบิร์น
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
ถ้าดาร์เรน เฟล็ตเชอร์ และจูเซ็ปเป้ รอสซี่ ลงเล่น จะเป็นการลงเล่นในวันคล้ายวันเกิดครบ 22 ปี และ 19 ปี ตามลำดับ
ถ้าเชราร์ด ปิเก้ ลงเล่น จะเป็นการลงเล่น 1 วันก่อนวันคล้ายวันเกิดครบ 19 ปี
รุด ฟาน นิสเตลรอย เป็นนักเตะในพรีเมียร์ชิพที่ทำประตูได้มากที่สุด ทำไปแล้ว 19 ประตูในทุกรายการ เขายังเป็นดาวซัลโวสูงสุดในพรีเมียร์ชิพ ทำไปแล้ว 16 ประตู โดยทำได้มากกว่าเธียร์รี่ อองรี ของอาร์เซน่อล และแฟร้งค์ แลมพาร์ด ของเชลซี คนละ 3 ประตู
ฟาน นิสเตลรอย และเวย์น รูนี่ย์ ทำประตูรวมกัน 26 ประตูจากทั้งหมดที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทำได้ในลีก 42 ประตู
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มีนักเตะที่ทำประตูได้ในพรีเมียร์ชิพฤดูกาลนี้แตกต่างกัน 12 คน
อลัน สมิธ ติดโทษห้ามแข่งในนัดนี้
ผลการแข่งขันเกมเยือนแบล็คเบิร์น โรเวอร์ส ในฤดูกาลที่แล้ว
แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส 1 – 1 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
วันที่ 28 สิงหาคม 2004
ผู้ตัดสิน : อลัน ไวลี่ย์
ผู้ทำประตูให้ แบล็คเบิร์น : ดิ๊กคอฟ น. 17
ผู้ทำประตูให้ แมนฯ ยูไนเต็ด : สมิธ น. 90
ผู้ถูกไล่ออก : อโมรูโซ่ (แบล็คเบิร์น) น. 71
ผลการแข่งขันที่พบกันนัดแรกในฤดูกาลนี้
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 1 – 2 แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส
วันที่ 24 กันยายน 2005
ผู้ตัดสิน ฟิล ดาวด์
ผู้ทำประตูให้ แมนฯ ยูไนเต็ด : ฟาน นิสเตลรอย น. 67
ผู้ทำประตูให้ แบล็คเบิร์น : พีเดอร์เซ่น น. 33, 81
สถิติการพบกันทั้งหมด
ในลีก แบล็คเบิร์น ชนะ 26 ครั้ง, แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะ 37 ครั้ง, เสมอ 22 ครั้ง
ในพรีเมียร์ชิพ แบล็คเบิร์น ชนะ 4 ครั้ง, แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะ 12 ครั้ง, เสมอ 7 ครั้ง
สถิติการพบกันในเกมเยือนแบล็คเบิร์น โรเวอร์ส
ในลีก แบล็คเบิร์น ชนะ 17 ครั้ง, แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะ 14 ครั้ง, เสมอ 11 ครั้ง
ในพรีเมียร์ชิพ แบล็คเบิร์น ชนะ 3 ครั้ง, แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะ 4 ครั้ง, เสมอ 4 ครั้ง
DaKinG