นายมณเฑียร บุญตัน ให้สัมภาษณ์ในรายการ "สับประเด็น" ทางช่องพีพีทีวี ถึงกรณีการโหวตนายกรัฐมนตรี ในการประชุมร่วรัฐสภาที่จะเกิดขึ้นหลังจากนี้ ว่าตนตัดสินใจเรื่องโหวตนายกฯแล้ว ตั้งแต่หลังเลือกตั้ง แม้ก่อนหน้านี้ตนตัดสินใจที่จะปิดสวิตซ์ตัวเองหลังจากโหวตแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 272 ไม่สำเร็จ แต่คิดว่าการปิดสวิตซ์ตัวเองภายใต้กฎหมายเดิม หรือปิดสวิตซ์แบบ 1.0 ซึ่งหมายถึงการงดออกเสียงนั้น จะมีค่าเท่ากับไม่เห็นชอบ เพราะการที่เรางดออกเสียงไม่ได้ลดองค์ประชุมลงไป แต่การงดออกเสียงเท่ากับว่าเราไม่เห็นด้วย
ดังนั้นตนจึงจะโหวตตามสภาผู้แทนราษฎรเสียงข้างมาก เพราะเราปิดสวิตช์ตัวเองแบบ 2.0 แล้ว ก็ไม่ต้องคิดอะไร สภาผู้แทนราษฎรเขาว่าอย่างไรก็ว่าตามนั้น โดยไม่ต้องคิดถึงความชอบไม่ชอบคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง
มั่นใจเสียง ส.ว.เพียงพอ โหวตหนุนนั่งตำแหน่งนายกฯ
ส.ว. เย้ยอาจมีเพียง 5 คน โหวตหนุน “พิธา” นั่งนายกฯ หากยังดันแก้ ม.112
ทั้งนี้คิดว่าหลักการปกติ ประชาธิปไตยปกติ ไม่มีความจำเป็นที่ ส.ว.จะร่วมโหวตนายกฯ แต่กรณี ส.ว.ร่วมเลือกนายกฯ เป็นสถานการณ์ไม่ปกติ เหมือนในปี 2562 ซึ่งตอนนั้นเป็นสถานการณ์เปลี่ยนผ่านจากการรัฐประหารสู่รัฐบาลประชาธิปไตย แต่ตอนนี้เราไม่ได้มีสถานการณ์นั้นแล้ว และไม่ได้เป็นภาวะที่ไม่ปกติอีกแล้ว ดังนั้นตนจึงตัดสินใจในหลักการว่าเห็นด้วยกับเสียงข้างมากในสภาของผู้แทนราษฎร
เมื่อถามว่าถ้าแคนดิเดตนายกฯเป็นนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ จะโหวตให้หรือไม่ นายมณเฑียร กล่าวว่า ก็เป็นแคนดิเดตจากกลุ่มที่สามารถรวบรวมเสียงในสภาได้เป็นเสียงข้างมาก ก็ไม่มีเหตุผลที่จะไม่โหวตให้ โดยโหวตให้ภายใต้หลักการที่ว่ามีเสียงข้างมากในสภา ตราบใดที่มีเสียง ส.ส.สนับสนุนเป็นเสียงข้างมาก ส.ว.อย่างตนก็จะโหวตให้
เมื่อถามว่าหากพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลและเสนอแคนดิเดตของพรรค อย่าง อุ๊งอิ๊งค์ แพทองธาร ชินวัตร หรือนายเศรษฐา ทวีสิน จะโหวตให้หรือไม่ นายมณเฑียร กล่าวว่า บนหลักการเดียวกันว่าหากรวบรวมเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรได้ ตนก็โหวตให้ บนหลักการที่ว่าตนจะปิดสวิตซ์การทำหน้าที่ ดังนั้นเมื่อเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎเห็นเป็นประการใดเราก็โหวตอย่างนั้น